ลายนิ้วมือ และประโยชน์จากลายนิ้วมือ

ลายนิ้วมือ (Fingerprint) คือ ลายเส้นนูนที่ปรากฏอยู่บนผิวหนังด้านหน้าของนิ้วมือ ซึ่งจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ถึงแม้จะเป็นแฝดที่เกิดจากไข่ฟองเดียวกันก็ตาม และจะไม่เปลี่ยนแปลงเลยตลอดชีวิต

เส้นลายนิ้วมือ

ลักษณะที่ทำให้ปรากฏเป็นลายนิ้วมือ ประกอบด้วยเส้นลายนิ้วมือ 2 ชนิด คือ

1. เส้นนูน หรือสันลายนิ้วมือ (ridge) คือ รอยนูนที่ยกสูงกว่าพื้นผิวหน้านิ้วมือที่มีลักษณะเป็นเส้นนูนโค้งและยาวตามรูปแบบลายนิ้วมือ เส้นนูนนี้เมื่อประทับลายนิ้วมือจะติดหมึกพิมพ์
2. ร่องลายนิ้วมือ (furrow) คือ รอยลึกที่อยู่ต่ำกว่าระดับของเส้นนูน และสลับระหว่างเส้นนูนซึ่งจะมองเห็นเป็นร่องสีขาว เมื่อประทับลายนิ้วมือ ร่องนี้จะไม่ติดหมึกพิมพ์

 

องค์ประกอบลายนิ้วมือที่ใช้ชี้บ่งเอกลักษณ์บุคคล

1. ลักษณะทั่วไป

ลักษณะทั่วไป คือ ลักษณะที่สายตาทั่วไปสามารถมองเห็น และวิเคราะห์ได้แบบผิวเผิน ได้แก่

– รูปแบบลายนิ้วมือ

– พื้นที่ทั้งหมดลายนิ้วมือ

– จุดใจกลาง

– จุดสันดอนหรือสามเหลี่ยมเดลต้า

– ชนิดของเส้น

– จำนวนเส้นลายนิ้วมือลักษณะเฉพาะที่

ลักษณะเฉพาะที่ คือ โครงสร้างของเส้นลายนิ้วมือที่สามารถจำแนกได้หลายลักษณะ แตกต่างกันบนลายนิ้วมือ ได้แก่

– เส้นแตก หรือ เส้นส้อม (bifurcation) คือ เส้นลายนิ้วมือที่มีปลายด้านหนึ่งแยกหรือแตกออกเป็น 2 เส้น หรือมากกว่า หรือหากมองจากอีกด้านหนึ่งจะมีเส้น 2 เส้น หรือมากกว่ามารวมกันกลายเป็นเส้นเดียว

– เส้นสั้นๆ (short ridge) คือ เส้นลายนิ้วมือที่มีขนาดเส้นสั้นกว่าเส้นลายนิ้วมือทั่วไป แต่จะไม่สั้นมากจนกลายเป็นจุด

– จุด (dot) คือ ลายเส้นนิ้วมือที่สั้นมากจนแลดูเป็นจุดหรือขีดเล็กๆ

– เส้นขาด (ending ridge) คือ เส้นลายนิ้วมือที่เป็นเส้นเดียวในแนวเดียวกับเส้นอื่น ซึ่งจะมีช่องว่างเป็นรอยขาดออกจากกันจากเส้นอื่น

– เส้นทะเลสาบ (island) คือ เส้นลายนิ้วมือที่มีปลายแยกออกเป็น 2 เส้น แล้ววกกลับมารวมกันกลายเป็นเส้นเดียว ซึ่งจะมีลักษณะโค้งออกหลังการแยก และโค้งเข้าเมื่อใกล้จุดบรรจบ ทำให้เกิดเป็นพื้นที่ว่างตรงกลางคล้ายกับแอ่งน้ำหรือทะเลสาบ

– เส้นตะขอ คือ เส้นลายนิ้วมือที่ปลายเส้นแยกออกเป็น 2 เส้น แต่ละเส้นแยกโค้งออกจากกัน และแต่ละเส้นมีความยาวไม่เท่ากันทำให้มีลักษณะเป็นตะขอ

– เส้นอื่นๆ คือ เส้นลายนิ้วมือที่แตกต่างกับเส้นลายนิ้วมือที่กล่าวมาข้างต้น เส้นเดียวที่มีปลายแยกออกเป็น 3 เส้น เรียกว่า “trifurcation” เป็นต้น

ประโยชน์ลายนิ้วมือ

ลายนิ้วมือของแต่ละคน เริ่มปรากฏขึ้นตั้งแต่อยู่ในช่วงอายุทารกประมาณ 3-4 เดือน ขณะที่อยู่ในครรภ์มารดา ซึ่งประกอบด้วยร่อง (Furrow) และสัน (Ridge) หรือเรียกว่า เส้นลายนิ้วมือ ซึ่งธรรมชาติสรรสร้างให้ประโยชน์สำหรับช่วยยึดจับสิ่งของให้แน่นขึ้น และมีคุณสมบัติเด่น 2 ประการ คือ

1. ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาหรือตลอดที่ยังมีชีวิต
2. มีรูปแบบเฉพาะในแต่ละคน

 

ดังนั้น ลายนิ้วมือจึงถูกนำมาใช้ประโยชน์ในหลายด้านด้วยกัน ได้แก่

– การตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือเพื่อพิสูจน์ตัวตนของบุคคล

– การตรวจสอบลายนิ้วมือเพื่อตรวจหาเจ้าของลายนิ้วมือ หรือที่ใช้ในงานด้านอาชญากรรมต่างๆ

– การยืนยันลายนิ้วมือ ซึ่งปัจจุบันนิยมใช้มากในด้านการบริหารงานบุคคล อาทิ การยืนยันการเข้าทำงานด้วยลายนิ้วมือ การยืนยันตัวตนเพื่อผ่านเข้าออกด้วยลายนิ้วมือ ซึ่งจะอาศัยเทคโนโลยีที่เรียก เครื่องสแกนลายนิ้วมือ

 

 

 

 

 

ประเภทของลายนิ้วมือ

1. ก้นหอยธรรมดา (plain whorl) คือลายนิ้วมือที่มีเส้นเวียนรอบเป็นวงจร วงจรนี้อาจมีลักษณะ

เหมือนลานนาฬิกา เหมือนรูปไข่ เหมือนวงกลม ลักษณะสําคัญ ได้แก่

1.1 ต้องมีจุดสันดอน 2 แห่ง และหน้าจุดสันดอนเข้าไปจะต้องมีรูปวงจรหรือเส้นเวียนอยูข้างหน้าจุด

สันดอนทั้ง 2 จุด

1.2 ถ้าลากเส้นสมมุติจากจุดสันดอนข้างหนึ่งไปยังสันดอนอีกข้างหนึ่ง เส้นสมมุติจะต้องสัมผัสเส้นวงจร

หน้าจุดสันดอนทั้ง 2 ข้างอย่างน้อย 1 เส้น

 

2. มัดหวายปัดขวา (right slant loop หรือ radial loop) มัดหวายรูปใดที่มีปลายเส้นเกือกม้าปัดปลาย

ไปทางมือขวา หรือนิ้วหัวแม่มือของมือนั้นเมื่อหงายมือ เรียกว่า มัดหวายปัดขวา หรือมัดหวายปัดหัวแม่มือ

 

3. มัดหวายปัดซ้าย (left slant loop หรือ ulnar loop) มัดหวายรูปใดที่มีปลายเส้นเกือกม้าปัดปลาย

ไปทางมือซ้าย หรือทางนิ้วก้อยของมือนั้นเมื่อหงายมือ เรียกว่ามัดหวายปัดซ้าย หรือมัดหวายปัดก้อย

 

4. มัดหวายคู่ หรือมัดหวายแฝด (double loop / twin loop) คือลายนิ้วมือที่มีรูปคล้ายกับลายนิ้วมือ

แบบมัดหวาย 2 รูปมากอดหรือมากล้ำกัน เป็นลายนิ้วมือที่มีสันดอน 2 สันดอน มัดหวาย 2 รูปที่ปรากฏ

นี้ไม่จําเป็นจะต้องมีขนาดเท่ากัน

 

5. โค้งราบ(plain arch) คือลักษณะของลายเส้นนิ้วมือ ที่ตั้งต้นจากขอบเส้นข้างหนึ่ง แล้ววิ่งหรือไหล

ไปอีกข้างหนึ่ง ลายนิ้วมือแบบนี้ จัดว่าเป็นลายเส้นที่ดูได้ง่ายที่สุดในบรรดาลายเส้นทั้งหมด

 

6. โค้งกระโจม(tented arch) คือลักษณะลายเส้นในลายนิ้วมือชนิดโค้งราบนั่นเอง แต่มีลักษณะ

แตกต่างกับโค้งราบที่สําคัญ ได้แก่

6.1 มีลายเส้นเส้นหนึ่งหรือมากกว่า ซึงอยู่ตอนกลางไม่ได้วิ่งหรือไหลออกไปยังอีกข้างหนึ่ง

6.2 ลายเส้นทีอยู่ตรงกลางของลายนิ้วมือ เส้นหนึ่งหรือมากกว่า เกิดเป็นเส้นพุ่งขึ้นจากแนวนอน

6.3 มีเส้นสองเส้นมาพบกันตรงกลางเป็นมุมแหลมคมหรือมุมฉาก

 

7. ซับซ้อน (accidental whorl) เป็นลายนิ้วมือที่ไม่เหมือนลายนิ้วมือชนิดอื่นที่กล่าวมาแล้ว

ไม่สามารถจัดเข้าเป็นลายนิ้วมือชนิดหนึ่งชนิดใดโดยเฉพาะ เป็นลายนิ้วมือที่ประกอบด้วยลายนิ้วมือ

แบบผสมกัน และมีสันดอน 2 สันดอน หรือมากกว่า

 

8. ก้นหอยกระเป๋ากลาง (central pocket loop whorl) คือลายนิ้วมือแบบก้นหอยธรรมดานั่นเอง

แต่ผิดกันตรงที่ลากเส้นสมมุติ จากสันดอนหนึ่งไปยังสันดอนหนึ่ง เส้นสมมุติจะไม่สัมผัสกับเส้นวงจรที่

อยู่ตอนใน

 

 

 

 

หากสแกนลายนิ้วมือ, เครื่องสเเกนใบหน้าและทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) ไม่ติดแก้ไขอย่างไร?

เป็นปัญหาและเรื่องค้างคาใจของหลายๆ หน่วยงาน เนื่องจากพนักงานมักมาแจ้งว่าสแกนลายนิ้วมือแล้วเครื่องสแกนลายนิ้วมือ,เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) ไม่มีเสียงตอบรับว่าบันทึกสำเร็จ! ทำไม หรือเครื่องสแกนลายนิ้วมือ,เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) ที่เราใช้งานอยู่ทำงานผิดพลาด สแกนไม่ติด สแกนยาก ถามว่ามีโอกาสไหมที่เครื่องสแกนลายนิ้วมือ,เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) เครื่องนั้นจะสแกนไม่ติด คำตอบคือมีโอกาสที่เครื่องสแกนลายนิ้วมือ,เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) ทำงานผิดพลาดแต่โอกาสที่เกิดขึ้นจะน้อยมากเพราะหากเครื่อสเเกนลายนิ้วมือ,เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) มีเสียงตอบรับว่า “บันทึกสำเร็จ” แสดงว่าได้บันทึก record เรียบร้อยแล้ว แต่ก็มีอีกกรณีนึง คือหากเครื่องสแกนลายนิ้วมือ,เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) เครื่องนั้นสเป็คต่ำ การประมวลผลช้า แล้วเมื่อพนักงานมาสแกนติดๆ กันอย่าเร่งรีบ อย่างรวดเร็ว ทำให้อาจเกิดปัญหานี้ขึ้นได้เช่นกัน

ประเด็นที่ 2 เป็นไปได้ไหมที่พนักงานจะลืมสแกน? จากประสบการณ์ของเราที่ดูแลเรื่องกว่าขายเครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้ามากว่า 8 ปี พบว่าเรื่องนี้มีโอกาสเป็นไปได้สูงสุดเพราะบางหน่วยงานถึงกับติดกล้องวงจรปิดไว้ ณ จุดติดตั้งเครื่องสแกนลายนิ้วมือ,เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) กันเลยทีเดียว เมื่อพนักงานมาแจ้งว่าได้สแกนแล้วแต่เครื่องสแกนลายนิ้วมือ,เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) ไม่บันทึกข้อมูล ฝ่ายบุคคลก็จะดูกล้องวงจรปิด ณ วันนั้นๆ ที่ได้รับแจ้งซึ่ง 100% พบว่าพนักงานไม่ได้สแกน บ้างก็รีบๆ เดินผ่านไปเลย บ้างก็เดินเล่นมือถือผ่านไป บ้างก็กำลังจะสแกนนิ้วหรือสแกนใบหน้าหรือทาบบัรคีย์การ์ดอยู่ ล่ะบังเอิญเพื่อนทักหยุดคุยกับเพื่อนแล้วก็เดินออกไปพร้อมกันทำให้ไม่ได้สแกนเพื่อเข้าหรือออกงาน!

แต่เราก็มีวิธีแก้ไขมาให้นะ! สำหรับการทำงานของเครื่องสแกนลายนิ้วมือเครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) หากพบว่ามีการสแกนแล้วจริงๆ แต่สแกนไม่ติดก็ให้พนักงานสแกนซ้ำ 2 ครั้ง และให้เข้าไปแก้ไขการตั้งค่าหน่วงเวลาหรือหน่วงบันทึกที่เครื่องสแกนลายนิ้วมือ,เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) ที่เราใช้งานอยู่ โดยหน่วงเวลาหรือหน่วงบันทึกของเครื่องสแกนลายนิ้วมือ,เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) จะถูกตั้งค่ามาจากโรงงานคือ 1 นาที (หน่วยของการตั้งค่าหน่วงเวลาจะคิดเป็นนาที) ซึ่งความหมายก็คือภายใน 1 นาที จากการสแกนครั้งแรกเครื่องสแกนลายนิ้วมือ,เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) จะไม่บันทึกซ้ำหากพนักงานคนเดียวกันมาสแกนอีกครั้ง โดยให้เราปรับการตั้งค่าจาก 1 เป็น 0 เพื่อให้ทุกครั้งที่สแกนนิ้ว สแกนใบหน้าและทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) เครื่องสแกนลายนิ้วมือ,เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) ก็จะบันทึกไว้ รับรองไว้ว่าหากพนักงานสแกนจริงจะไม่พลาดอย่างแน่นอน

 

 

 

เทคนิค การสแกนลายนิ้วมือ และใบหน้าให้ สแกนง่ายและรวดเร็วขึ้น

เครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้าถือเป็นนวัตกรรมการยืนยันตัวตนได้ดีที่สุดและไม่สามารถลอกเลียนแบบกันได้ ซึ่งปัจจุบันเครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้ายังคงเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมสูงสุด (มากกว่าเครื่องทาบบัตรและเครื่องตอกบัตร) ในการใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้านั้นอาจมีบางท่านที่เจอปัญหา การสแกนที่ยาก การสแกนไม่ติด สแกนแล้วสแกนอีกซ้ำหลายๆ ครั้งก็ยังไม่สำเร็จ วันนี้เราจะมาวิเคราะห์ถึงสาเหตุว่าทำไมบางคนจึงสแกนง่ายวางนิ้วปุ๊บสแกนผ่านปั๊บหรือหากใช้เครื่องสแกนใบหน้าก็แค่ยืนตัวยังไม่นิ่งเลยก็สแกนผ่านล่ะ แล้วทำไมบางคนวางนิ้วแล้ววางนิ้วอีกสแกนแล้วสแกนอีกก็ยังสแกนไม่ผ่าน เครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้าก็ยังคงบอกให้ลองใหม่อีกครั้ง มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? บทความนี้เราจะมาชี้ชัดกันในเรื่องวิธีวางนิ้วเพื่อให้เครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้า สแกนง่าย สแกนเร็ว ก่อนที่จะไปคุยกันในเรื่องการวางนิ้วเพื่อให้สแกนง่าย สแกนเร็ว เราอยากแนะนำให้รู้จักกับเครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้า ซึ่งเทคโนโลยีสแกนใบหน้าเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด มาพร้อมการทำงาน 4 function ด้วยกัน ได้แก่ สแกนหน้า สแกนนิ้ว สแกนบันและกดรหัส เรียกได้ว่าหากสแกนนิ้วมันผ่านยากนัก เราก็บันทึกเวลาการทำงาน หรือใช้สำหรับควบคุมประตูสั่งงานด้วยใบหน้าไปเลยมั้ย!!! รวดเร็วทันใจ สแกนได้ภายใน 1 วินาที!!!

เอาละ!! ปัญหาการสแกนยาก สแกนไม่ติด มีสาเหตุด้วยกันหลากหลายข้อซึ่งก่อนหน้านี้เราได้เขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้แล้ว เพียงเข้าไปอ่านที่ แก้ไขปัญหา เครื่องสแกนลายนิ้วมือ อ่านยาก อ่านไม่ติด สแกนไม่ได้ เพื่อจะได้ทำความเข้าใจกันก่อนว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องใดบ้างสำหรับองค์กรของเรา แต่อีกหนึ่งวิธีที่เราจะแนะนำต่อไปนี้ก็คือ วิธีการวางนิ้วเพื่อให้สแกนได้ง่ายขึ้นซึ่งไม่ว่าเราจะใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้า เราก็จะต้องเก็บลายนิ้วมือ เก็บใบหน้า ไว้ในตัวเครื่องก่อนเสมอ การเก็บข้อมูลครั้งแรกเพื่อเป็นแม่แบบนี้แหละหากการเก็บลายนิ้วมือได้คุณภาพดี ตำแหน่งวางนิ้วเหมาะสม ในการสแกนครั้งถัดๆ มาก็จะไม่มีปัญหาการสแกนยาก สแกนไม่ติด เพราะเราก็ยังคงวางนิ้วในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกับตอนที่เราเก็บลายนิ้วมือแม่แบบไว้

 

 

 

 

สาระน่ารู้เกี่ยวกับใช้งานเครื่องสแกนลายนิ้วมือเครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร)

หลายๆ ท่านที่ซื้อเครื่องสแกนลายนิ้วมือ,เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) ไปแล้ว หรือบางท่านก็อาจกำลังตัดสินใจแต่ก็งงๆ ว่า เอ้.. เราจะเริ่มต้นยังไงดี ถ้าดูคู่มือแล้วก็ยังงงๆ ว่าควรนับ 1 ที่ตรงไหน ทำอะไรก่อนอะไรหลัง เรามาทำความเข้าใจพร้อมๆ กันไปเลยว่าเราจะเริ่มต้นยังไงกับบทความนี้ ซึ่งต้องบอกว่าปัจจุบันเครื่องสแกนลายนิ้วมือ,เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) ถูกออกแบบมาให้ใช้ง่าย แม้ว่าเราจะไม่เคยใช้มาก่อนเราก็สามารถเรียนรู้และใช้งานเครื่องสแกนลายนิ้วมือ,เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) ได้ เพียงแค่ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที เราก็สามารถเรียนรู้และใช้งานได้แล้ว มันคือเรื่่องจริง เนื่องจากเมนูในเครื่องสแกนลายนิ้วมือ,เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) มีหลายเมนูมาก บางท่านอาจสับสนว่าต้องเริ่มยังไง เรื่องนี้ต้องบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องใช้งานทุกเมนู ในระยะเริ่มต้นการใช้งานแนะนำให้ใช้เฉพาะเมนูสำคัญๆ ก่อน เพื่อให้เราเริ่มต้นใช้งานเครื่องสแกนลายนิ้วมือ,เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) ได้รวดเร็ว ง่าย และไม่มึนงง ส่วนเมนูที่เหลือหากสงสัยหรืออยากทราบว่าทำอะไรได้บ้างก็ลองศึกษาในคู่มือการใช้งานได้เลย และสำหรับท่านที่ต้องการคำแนะนำว่าควรเริ่มต้นยังไงดี? อะไรก่อน? อะไรหลัง เรามาสรุปให้อ่านกันอีกครั้งดังขั้นตอนต่อไปนี้

เรื่องแรกที่ต้องทำคือ จะต้องตรวจสอบว่าเวลาของเครื่องสแกนลายนิ้วมือ , เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) เป็นเวลาที่ถูกต้องหรือไม่? หากไม่ถูกต้องให้เข้าไปปรับเวลาให้เป็นปัจจุบัน ซึ่งการปรับเวลาก็ไม่ยาก เพียงแค่เข้าไปที่ เมนู > ตั้งค่า > เวลา และก็ให้ดำเนินการแก้ไขเวลาปัจจุบัน เมื่อเราแก้ไขเวลาของเครื่องสแกนลายนิ้วมือ,เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) เรียบร้อยแล้ว หรือบางเครื่องหากเวลาตรงแล้วก็ไม่ต้องแก้ใดๆ จากนั้นให้เราดำเนินการเพิ่มผู้ใช้งาน หรือเพิ่มลายนิ้วมือของพนักงานโดยเข้าไปที่ เมนู > ผู้ใช้ > เพิ่ม > ลายนิ้วมือ หรือใบหน้าแล้วแต่เราต้องการและเครื่องที่เราใช้ว่ารองรับอะไร > เครื่องจะแจ้ง id ให้เราทราบ หาก ok ตามนี้ก็ กด ok > พิมพ์ชื่อพนักงาน พิมพ์ก็ได้ ไม่พิมพ์ก็ได้ เสร็จกด ok > กรณีที่เป็นเครื่องสแกนลายนิ้วมือ ให้วางนิ้ว 3 ครั้ง เพื่อเก็บข้อมูล และให้กด ok เพื่อสำรองอีกนิ้ว กรณีที่เป็นเครื่องสแกนใบหน้า ก็ให้บันทึกใบหน้าได้เลยและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร)ก็สามารถ เพิ่มบัตรคีย์การ์ดเข้าในเครื่องได้เลยขั้นตอนเริ่มต้นการใช้งานของเครื่องสแกนลายนิ้วมือ,เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) ก็มีเพียงแค่นี้ เมื่อเราดำเนินการเรียบร้อยแล้วก็พร้อมให้พนักงานสแกนเพื่อเข้าและออกงานได้เลย สำหรับท่านที่ใช้วิธีดาวน์โหลดข้อมูลรายงานด้วย flash drive ก็เพียงแค่เสียบ flash drive ที่เครื่องสแกนลายนิ้วมือ,เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) แล้วก็กด เมนู > รายงาน เพียงแค่นี้ระบบก็จะสั่งดาวน์โหลดรายงานเข้าไปไว้ใน flash dirve เรียบร้อย แต่สำหรับท่านที่ใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือ,เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) ร่วมกับโปรแกรมคำนวณเวลา อาจต้องเข้าไปตั้งค่าโปรแกรมคำนวณเวลาอีกครั้ง (ตั้งค่าเพียงครั้งแรก) เพื่อให้เราสามารถดูรายงานได้อย่างถูกต้อง ตรงประเด็น ครบถ้วน ซึ่งในการตั้งค่าโปรแกรมคำนวณเวลา ทั้ง นี้ทางเรามีขั้นตอนให้อ่านกันลองเข้าไปที่สินค้าที่สนใจและเลือกหาวิธีใช้งานได้เลย

 

 

วิธีแก้ไขปัญหาเมื่อไฟดับแล้วเครื่องสแกนลายนิ้วมือเครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) ก็ดับทำให้ประตูเปิดไมได้

 

เทคนิคการใช้งานของเครื่องสแกนลายนิ้วมือ เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) กันสักหน่อย เรื่องมีอยู่ว่าหากเราเจอปัญหาไฟดับแล้วส่งผลให้เครื่องสแกนลายนิ้วมือ เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) ดับไปด้วย ซึ่งเคสนี้ต้องบอกว่ามันเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกๆ สถานที่ หากถ้าเราใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือ เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) สำหรับบันทึกเวลาเข้าและออกงาน ปัญหาไฟดับ! คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่หากถ้าเราใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือ เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) สำหรับควบคุมประตูแล้วไฟดับส่งผลให้เครื่องสแกนลายนิ้วมือ เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) ดับไปด้วย แต่เจ้ากรรมทำไมประตูยังล็อค!!! ปัญหานี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? วิธีแก้ไขหล่ะต้องทำไง? เราพร้อมให้คำตอบทุกปัญหาในนี้เลย!

เชื่อว่าหลายท่านคงสงสัยว่าเครื่องสเเกนลายนิ้วมือ เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) ดับได้ไงทั้งๆ ที่เราก็มีแบตเตอรี่สำรอง? เรื่องนี้สามารถอธิบายได้ดังนี้ เนื่องจากชุดควบคุมประตูไม่ว่าจะสั่งงานด้วยเครื่องสแกนลายนิ้วมือ เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) ในชุดก็จะมีแบตเตอรี่สำรองมาด้วย แต่เนื่องจากแบตเตอรี่สำรองมีอายุการใช้งานในระยะเวลาหนึ่ง (ขึ้นอยู่กับยี้ห้อ บางยี้ห้อ 6 เดือน บางยี้ห้อ 1 ปี บางยี้ห้อ 2 ปี) แต่โดยปกติจะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ก้อนใหม่ทุกปีเพื่อให้ระบบยังคงมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ เนื่องจากเมื่อใช้ไปนานๆ กำลังไฟในแบตเตอรี่ก็จะลดลง จากที่เคยสามารถจ่ายไฟเลี้ยงระบบทั้งชุดกลอนไฟฟ้ และเครื่องสแกนลายนิ้วมือได้นาน 1-2 ชั่วโมง ก็จะลดลงเรื่อยๆ จนกระทั้งเมื่อไฟดับก็ไม่สามารถจ่ายไฟเพื่อเลี้ยงเครื่องสแกนลายนิ้วมือ เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) ได้ แต่ก็ยังคงมีกำลังไฟพอที่จะเลี้ยงชุดกลอนไฟฟ้า ส่งผลให้เครื่องสแกนลายนิ้วมือ เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) ดับ แต่ประตูยังล็อคเพราะกำลังไฟในแบตเตอรี่ยังมีพอที่จะเลี้ยงชุดกลอนไฟฟ้าให้สามารถทำงานต่อไปได้ ปัญหาที่ตามมาก็คือคนนอกเข้าไม่ได้ แต่คนในยังคงสามารถกดปุ่ม exit switch ออกมาภายนอกได้อยู่! เมื่อเราทราบแล้วว่าทำไมเครื่องสแกนลายนิ้วมือ เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) ดับแต่ประตูยังถูกล็อคไว้ สาเหตุของปัญหาก็คือชุดกลอนไฟฟ้ายังคงได้รับการหล่อเลี้ยงจากแบตเตอรี่สำรอง ซื่งวิธีแก้ไขเรื่องนี้ไม่ยากเพียงแค่เราเปลี่ยนแบตเตอรี่ก้อนใหม่ปัญหานี้ก็จะหมดไป แต่หากถ้าเรายังไม่พร้อมเปลี่ยนเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าก็สามารถถอดแบตเตอรี่ออกมาจากกล่อง power supply ได้ เมื่อไฟดับประตูก็จะคลายล็อคทันที

 

 

การนำข้อมูลของเครื่องสแกนลายนิ้วมือเชื่อมต่อโปรแกรมเงินเดือน

ความต้องการของผู้ใช้เครื่องเครื่องสแกนใบหน้า,เครื่องสแกนลายนิ้วมือ,เครื่องทาบบัตร คีย์การ์ด ก็คือ ต้องการนำรายการบันทึกเวลาการทำงานของพนักงานจากเครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้าเข้าไปประมวลผลในโปรแกรมเงินเดือน เพื่อจัดทำสรุปรายได้ของพนักงานต่อไป ซึ่งเพื่อทำความเข้าใจในเรื่องนี้เราจึงเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่ออธิบายวิธีการทำงาน หลักการ และข้อจำกัดให้ทราบเพื่อการพิจารณาของทุกท่านต่อไป

 

โดยปกติแล้วเครื่องสแกนที่สามารถบันทึกข้อมูลการใช้งานของบุคคลได้นั้น จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ก็คือ เครื่องสแกนลายนิ้วมือ เครื่องสแกนใบหน้า เครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) ที่ใช้ร่วมกับโปรแกรมคำนวณเวลา หากรุ่นที่เราใช้งานอยู่รายงานข้อมูบออกมา ในรูปแบบ excel เครื่องสแกนลายนิ้วมือ เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) กลุ่มนี้จะสามารถนำข้อมูลเข้าโปรแกรมเงินเดือนได้

 

การนำข้อมูลจากเครื่องสแกนลายนิ้วมื ,เครื่องสแกนใบหน้า ,เครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) เข้าโปรแกรมเงินเดือนนั้น เราพอสรุปได้ 3 รูปแบบ คือ

 

แบบที่ 1 เชื่อมต่อผ่าน text file หรือ excel โดยไม่ต้องประมวลผล หมายความว่าเอา list การบันทึกเวลาที่ได้จากเครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้าเข้าสู่โปรแกรมเงินเดือนเลย โปรแกรมเงินเดือนก็จะเป็นผู้คำนวณเวลาให้เอง ทำงานกี่วัน? ขาดงานกี่วัน? มาสายกี่นาที? ทำโอทีเท่าไหร่? โปรแกรมเงินเดือนก็จะคำนวณให้ทั้งหมด

แบบที่ 2 เชื่อมต่อผ่าน text file หรือ excel โดยจะต้องให้โปรแกรมคำนวณเวลาที่ใช้งานร่วมกับเครื่องสแกนลายนิ้วมือเครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) เป็นผู้สรุปข้อมูลให้แล้ว พูดง่ายๆ คือ โปรแกรมเงินเดือนจะรับแค่ file สรุปการทำงานเพื่อนำไปคำนวณเงินเดือนเท่านั้น จะทำงานกี่วัน จะมาสายกี่นาที มีโอทีหรือไม่ จะต้องให้โปรแกรมคำนวณเวลาสรุปให้เรียบก่อนนำเข้าโปรแกรมเงินเดือน

แบบที่ 3 คีย์เอง คือโปรแกรมเงินเดือนไม่รองรับการเชื่อมต่อกับเครื่องสแกนลายนิ้วมือ เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) เช่นโปรแกรมเงินเดือนของ bank หากเราใช้โปรแกรมรูปแบบนี้ก็ให้เราสรุปขาดลามาสายและโอทีจากโปรแกรมคำนวณเวลาให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็แค่ key ข้อมูลจำนวนวันทำงาน เวลาที่สาย โอที เข้าไปในโปรแกรมเงินเดือน

ไม่ว่าเราจะเลือกแบบที่ 1 หรือ 2 หรือ 3 ก็ให้สอบถามผู้จัดจำหน่ายโปรแกรมเงินเดือนให้ถ้วนถี่ว่า รองรับการเชื่อมต่อกับเครื่องสแกนลายนิ้วมือ เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) หรือไม่ โปรแกรมเงินเดือนจะเป็นผู้คำนวณเวลาการทำงาน สรุปสาย โอที ขาดงานเองหรือไม่? หรือโปรแกรมเงินเดือนจะรับแค่ file สรุปจากเครื่องสแกนลายนิ้วมือ เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) เข้าไปเท่านั้น? หรือจะต้อง key เข้าไปเอง เป็นต้น เพราะทุกๆ คำถามเหล่านี้จะช่วยให้เราเลือกซื้อโปรแกรมเงินเดือนได้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์มากยิ่งขึ้น

 

สำหรับในมุมของเครื่องสแกนลายนิ้วมือ เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) เราสามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมเงินเดือนได้ทุกยี้ห้อ แต่มีเงื่อนไขคือ โปรแกรมเงินเดือนเหล่านั้นจะต้องรองรับการเชื่อมต่อในรูปแบบ text file หรือ excel เท่านั้น แต่หากผู้ใช้งานสะดวกที่จะเลือกการใช้งานในรูปแบบที่ 3 คือ key ข้อมูลสรุปเข้าไปเองก็ไม่มีปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อ เชื่อมต่อได้หรือไม่ได้ก็ไม่สำคัญเพราะเครื่องสแกนลายนิ้วมือ เครื่องสแกนใบหน้าและเครื่องทาบบัตรคีย์การ์ด (เครื่องทาบบัตร) มาพร้อมโปรแกรมคำนวณเวลาที่สามารถสรุปเวลาทำงาน ขาด ลา มาสายให้ได้เลย

 

 

เครื่องควบคุมประตู

อีกคุณสมบัติหนึ่งของเครื่องบันทึกเวลานั้นก็คือการใช้งานเป็นเครื่องควบคุมประตู โดยการต่อพ่วงกับชุดกลอนแม่เหล็กไฟฟ้า ประตูก็สามารถใช้เป็นอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยให้กับสถานที่นั้นๆได้เป็นอย่างดี ซึ่งบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าไปในสถานที่แห่งนั้นได้ สำหรับบุคคลภายนอกจะเข้าได้ก็ต่อเมื่อบุคคลภายในต้องเป็นคนเปิดให้เท่านั้น ซึ่งจะช่วยทำให้สถานที่แห่งนั้นมีความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน

การใช้งานและการติดตั้ง ส่วนใหญ่ตัวแทนจำหน่ายเกือบทุกที่จะมีบริการติดตั้งให้ฟรี เพื่อบริการให้กับลูกค้าอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงคือการบริการหลังการขาย เพราะเนื่องผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่มีความรู้ในเรื่องของการติดตั้งและซ่อมบำรุงดังนั้นจึงควรเลือกซื้อจากตัวแทนจำหน่ายที่มีความน่าเชื่อถือ และมีบริการหลังการขายเท่านั้น เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นภายหลัง

สถานที่ที่เหมาะจะใช้เครื่องควบคุมประตูได้แก่ หอพัก สำนักงาน โรงแรม ห้องสมุด เพราะเป็นสถานที่ที่ต้องการความปลอดภัย และต้องการการควบคนนอกไม่ให้เข้าออกได้นั่นเอง ส่วนราคานั้นไม่แพงอย่างที่คิด เพราะเครื่องบันทึกเวลาส่วนใหญ่นั้นมีความสามารถในการใช้งานเป็นเครื่องควบคุมประตูได้ทั้งสิ้น เพียงแค่คุณแจ้งกับพนักงานขายว่าต้องการเอาไปใช้ทำอะไรเท่านั้นเอง

 

 

 

ระบบ Access Control คือ อะไร

เป็นระบบที่ควบคุม การ เข้า-ออก ที่ทำงานโดยผ่านเทคโนโลยีของ Hardware และ Software เพื่อควบคุมการทำงานของระบบให้มีความแม่นยำ ในแต่ละสถานที่ ที่มีการเข้าออกพร้อมๆกันหรือหลายประตูได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบควบคุม Access Control จะใช้อุปกรณ์ล็อค เรียกว่า Electric door lock หรือ กลอนแม่เหล็กไฟฟ้า อาจจะใช้งานร่วมกับ ปุ่มกด,เครื่องทาบบัตร,เครื่องแสกนลายนิ้วมือ,เครื่องสแกนใบหน้า

ระบบคุมประตู หรือ ระบบคุมการ เข้า-ออกทางประตูต่างๆ จะเป็นระบบที่ทางสถานที่นั้นๆไม่ต้องการให้ใครผ่านเข้า-ออก โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางสถานที่ก่อน ส่วนบุคคลที่ได้รับอนุญาตก็จะต้องมีรหัส,ใบหน้า,ลายนิ้วมือ หรือบัตรทาบ ผ่านเข้าไปหรือมีบุคคลภายในสถานที่กดปุ่มสวิทซ์อนุญาตให้ผ่านเข้าไปได้เท่านั้นในปัจจุบัน ได้มีการนำเทคโนโลยีเกี่ยวกับการตรวจสอบ บุคคลด้วยลายนิ้วมือ (Fingerprint Identification Technology) ทำให้การตรวจสอบบุคคลทำได้แม่นยำ โดยประมาณว่าลายนิ้วมือ (Fingerprint) ของคนจำนวน 600 ล้านคน อาจมีโอกาสที่ ลายนิ้วมือ (Fingerprint) จะซ้ำกันได้เพียง 1 คู่เท่านั้น

ระบบเครื่องสแกนลายนิ้วมือ คือ ระบบที่ต้องใช้ลายนิ้วมือ ของบุคคลที่ได้รับการอนุญาต หรือบุคคลที่ได้ทำการบันทึกลายนิ้วมือ ลงไว้ในตัวเครื่องสแกนลายนิ้วมือ ที่ใช้ควบคุมระบบการทำงานต่างๆ แล้วซึ่งหากบุคคลใดไม่ได้มีการบันทึกลายนิ้วมือลงไว้ในตัวเครื่องสแกนลายนิ้วมือ ก็จะไม่สามารถเข้าไปใช้งานระบบที่ต้องมีการสแกนลายนิ้วมือนี้ได้ ส่วนระบบที่นำการสแกนลายนิ้วมือเข้ามาใช้ในการควบคุม เช่นการใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือมาทำเป็นเครื่องลงเวลาการทำงาน ของพนักงานในองค์กร เพราะระบบจะทำการระบุตัวบุคคลได้ดีกว่า และแน่นอนกว่าระบบอื่น เพื่อป้องกันการลงเวลาทำงานแทนกันของพนักงาน หรือ การใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือมาทำเป็น ระบบควบคุมการเข้า-ออก ของประตูสถานที่ต่างๆ ที่ไม่ต้องการให้บุคคลอื่นใดที่ไม่ได้รับอนุญาตผ่านเข้า-ออกทางประตูนั้นๆ อาทิเช่น ประตูหน้าเข้า-ออก ห้องบัญชีและการเงิน, ประตูห้องเก็บสินค้า, ประตูห้องควบคุมระบบต่างๆ เป็นต้น

 

 

 

 

 

ระบบ Time Attendance system คือ อะไร

เครื่องลงเวลาทำงาน เช่น เครื่องสแกนลายนิ้วมือ , เครื่องสแกนใบหน้า , เครื่องทาบบัตร โดยมีโปรแกรมจัดการเวลา(TIME ATTENDANCE) คำนวณเวลา ขาด ลา มาสาย OT โดยสามารถส่งออกข้อมูลเป็น EXCEL , TEXT FILE ฯลฯ โดยสามารถส่งข้อมูลไปยังโปรแกรมเงินเดือนได้ทุกชนิดโดยลูกค้าสามารถส่งตัวอย่างข้อมูลที่ต้องการ ให้เจ้าหน้าที่ Supportดำเนินการตั้งค่าโปรแกรมในวันติดตั้งเพื่อสะดวกต่อการใช้งานจริง โดยทาง สยามฟิงเกอร์ ของเรา มีเจ้าหน้าที่ Support คอยช่วยเหลือแก้ปัญหาในการใช้งานทั้งตัวเครื่องและโปรแกรม ตลอดระยะเวลาทำการ

 

จุดเด่นของระบบ Time Attendance system

– รองรับการคำนวณเวลาการทำงาน เช่น การมาสาย ลา หรือการขาดงาน เป็นต้น

– สามารถใช้ควบคู่ไปกับเครื่องบันทึกเวลาทำงาน เช่น เครื่องสแกนลายนิ้วมือ , เครื่องสแกนใบหน้า , เครื่องทาบบัตร ได้

– ออกรายงานต่างๆ เช่น Time Sheet, Report, OT, เป็นต้น

– สามารถทำการกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ได้ตามต้องการ

– มีระบบประมวลผลเวลาทำงานโดยอัตโนมัติ

– ระบบช่วยให้การพัฒนาและบริหารจัดการเกี่ยวกับบุคลากรให้เป็นเรื่องง่าย

– มีตัวช่วยกรองและแก้ไขข้อผิดพลาดจากการบันทึกเวลาที่ใช้ง่ายและรวดเร็ว

– สามารถกำหนดเงื่อนไขการให้ OT และการหักเงินมาสายได้อย่างละเอียด

– มีเงื่อนไขพิเศษสำหรับการออกงานดึก เช่น การทำงานข้ามเที่ยงคืน

– ทำงานคู่กับระบบ Payroll เป็นอย่างดี

– สามารถตรวจสอบจำนวนพนักงาน เวลาเข้า-ออกงานในแต่ละ บุคคล หรือ แผนกย่อยได้อย่างละเอียด

– ดูรายงานได้ ไม่ว่าจะเป็นช่วง วัน , เวลา เป็นรายบุคคล หรือ รายแผนก

ทั้งนี้ ทาง สยามฟิงเกอร์ หวังเป็นอย่างยิ่ง ระบบ Time Attendance จะตอบโจทย์ ลูกค้าได้ดีเป็นอย่างยิ่ง พวกเราพร้อมให้บริการแก่ท่านคุณลูกค้าครับ